วิธีการปลูกหอยทากที่บ้าน?

หอยทากสามารถเห็นได้เกือบทุกที่ในตู้ปลา ประการแรกหอยเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องตกแต่งที่ยอดเยี่ยมและประการที่สองพวกมันเป็นตัวทำความสะอาดที่ค่อนข้างดีเนื่องจากพวกมันกินอาหารที่ปลาไม่ได้กิน เหนือสิ่งอื่นใด หอยทากทำลายเมือกที่เกาะอยู่บนผนังของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและพืช ในขณะนี้มีหอยทากในตู้ปลาจำนวนมาก พวกเขามาในหลากหลายขนาดและการออกแบบ บางชนิดเป็นเพศตรงข้ามและบางชนิดเป็นกระเทย ไม่ว่าในกรณีใด สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะทวีคูณในทันที ดังนั้นต้องติดตามประชากรของพวกเขา

ในการทำเช่นนี้คุณต้องรู้ว่าหอยทากผสมพันธุ์อย่างไร เพศตรงข้าม เช่น แอมพูลเลีย วางไข่บนผนังตู้ปลา ปิดฝา หรือปิดฝา ซึ่งไม่ใช่ในน้ำ ไข่จับค่อนข้างแน่นและไม่ค่อยตกถึงก้นหอย หอยทากขนาดเล็กปรากฏในหนึ่งและครึ่งถึงสองสัปดาห์ สำหรับกระเทยแม้ว่าจะมีเพียงคนเดียวที่ปลูกในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แต่เธอก็จะมีลูกหลานอย่างแน่นอน หอยทากเหล่านี้สามารถผสมพันธุ์กับสมาชิกในสกุลได้ ในกรณีนี้ หอยที่ใหญ่กว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวเมียเสมอ

หอยทากในตู้ปลาขนาดใหญ่ เช่น แอมพูลเลีย สามารถตกแต่งบ่อเทียมได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามในตู้ปลาปกติ (50-100 ลิตร) การมี 5-7 คนจะเพียงพอ สำหรับกระเทยตัวเล็ก ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ พวกเขาสามารถเติมตู้ปลาได้เกือบทั้งหมด หอยทากสีแดงมีความอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ - หอยสีน้ำตาลตัวเล็ก ๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยตั้งแต่วัยเด็ก จำนวนกระเทยนั้นควบคุมได้ยากกว่า แต่ก็ค่อนข้างเป็นไปได้

มีเพียงไม่กี่วิธีในการกำจัดหอยทากในตู้ปลาที่มากเกินไป ประการแรก เนื่องจากพวกมันกินเศษอาหารปลาเป็นหลัก ดังนั้นก่อนอื่นให้ติดตามปลาหลังจากให้อาหาร หากหลังจากวางอาหารในตู้ปลาแล้ว 4-5 นาทีก็ไม่กินก็จะต้องลดส่วนลง

วิธีที่ดีประการที่สองคือการได้ผู้ล่าซึ่งเป็นศัตรูตามธรรมชาติของหอยทากในตู้ปลา ตัวอย่างเช่น การต่อสู้ที่โจมตีหอยและดึงพวกมันออกจากเปลือกหอยอย่างแท้จริง การเติบโตของประชากรของแนทซึ่งมักจะเข้าไปในตู้ปลาโดยบังเอิญ (กับดิน พืช อุปสรรค์ และหิน) สามารถหยุดได้โดยการส่งปลาดุกหรือบรรพบุรุษเข้าไปในตู้ปลา ปลาเหล่านี้เต็มใจกินไข่และหอยทากหนุ่ม ปลาหมอสีบางชนิดทำเช่นเดียวกัน

หากปลาเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในตู้ปลาด้วยเหตุผลบางประการ คุณสามารถใช้วิธีอื่นได้ วิธีนี้เรียกว่าสลัด ในการกำจัดหอยทากในตู้ปลา ให้นำผักกาดหอมหนึ่งใบแล้วลวกด้วยน้ำเดือด ในตอนเย็นเหยื่อนี้ถูกวางไว้ที่ด้านล่างแล้วกดด้วยก้อนกรวดเพื่อไม่ให้ลอยขึ้น ตอนเช้าเอาใบไม้มาพลิกกลับเห็นหอยทากเล็กๆ หลายตัวอยู่ด้านหลัง ด้วยการดำเนินการนี้หลายครั้ง คุณสามารถลดจำนวนบุคคลลงได้อย่างมาก

คุณสามารถใช้สารเคมีชนิดพิเศษที่จำหน่ายในร้านขายสัตว์เลี้ยงได้ อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้มีข้อเสียเปรียบที่สำคัญประการหนึ่ง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังทำลายแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ด้วยการฆ่าหอยทาก เป็นผลให้สมดุลทางชีวภาพในตู้ปลาอาจถูกรบกวน คุณยังสามารถล้างพืชและดินในน้ำเกลืออุ่นได้อีกด้วย สิ่งนี้น่าจะช่วยได้อย่างแน่นอน

จีดี สตาร์ เรตติ้ง
กำลังโหลด ...

พิภพเล็ก ๆ ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของคุณประกอบด้วยส่วนประกอบหลายอย่าง ประกอบด้วยดิน - ก้นทราย และพืช - สาหร่ายชนิดต่างๆ และปลาทุกชนิดที่เข้ากันได้ง่าย มันคงเป็นความผิดพลาดที่จะคิดว่านี่คือจุดจบขององค์ประกอบของโลกพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนอกจากนี้ยังมีหอยทาก (พิเศษรวมถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ) พืชและสัตว์เซลล์เดียวอาหารสดที่คุณโยนลงไปในน้ำเป็นครั้งคราว

การลบองค์ประกอบใด ๆ หมายถึงการรบกวนความสามัคคีภายในของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และถ้าคุณสังเกตเห็นว่าไม่มีหอยทากในนั้น คุณควรหามันมา

หอยทากแตกต่างจากหอยทาก องุ่น สวนขนาดเล็ก - ไม่ใช่สำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หากคุณตั้งใจจะจับพวกมันและโยนลงไปในน้ำ เป็นการดีกว่าที่จะละทิ้งความคิดนี้ หอยทากในตู้ปลาเป็นหอยทากบางชนิด พวกเขาซื้อที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงหรือขอให้แบ่งปันนักเลี้ยงสัตว์น้ำที่คุ้นเคย

ในตู้ปลา ยังไม่พบหอยทากในสายพันธุ์เดียวกัน พวกเขาทั้งหมดแตกต่างกัน คุณเลือกสิ่งที่เข้ากันได้กับผู้อยู่อาศัยในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เหลือ ปริมาณของภาชนะก็มีความสำคัญเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Ampularia จะต้องใช้ 10 ลิตรต่อ 1 คน สายพันธุ์อื่นไม่จู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เบื่อกับสิ่งเล็กๆ

โดยวิธีการที่ไม่จำเป็นต้องจัดหาอาหารสำหรับหอยทาก: พวกเขาพบว่าตัวเอง คุณเคยเห็นไหมว่าในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีหอยทากเพียงไม่กี่ตัว น้ำก็ไม่ขุ่นอย่างรวดเร็วนัก? มันคือหอยที่กรองมัน พวกเขากินคราบจุลินทรีย์จากด้านในของแก้ว ทำความสะอาดด้านล่าง หลักฐานอีกประการหนึ่งที่แสดงว่าจำเป็นในสภาพแวดล้อมของตู้ปลา แต่ถ้ามีหอยทากมากเกินไป พวกมันจะไม่มีอาหารเพียงพอ พวกเขาจะต้องบอกลาพืช ใบไม้ของพวกมันจะไปเป็นอาหาร

หอยทากได้รับการอบรมหากมีการตั้งรกรากในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไม่จำเป็นต้องก้มหัวและค้นหาเพศของหอยทาก จาก 5-7 ที่ปลูกใน 1 คอนเทนเนอร์ จะมีคู่ที่เหมาะสมแน่นอน

การสืบพันธุ์จะไปโดยการวางไข่ หอยทากสูดอากาศไข่ก็ถูกวางในอากาศหรือใกล้กับมัน คุณสามารถหาอิฐบนผนังของตู้ปลา บนฝา ซึ่งควรจะครอบคลุมด้านบน และบนใบของพืช

ไม่นานลูกหอยทากจะฟักออกจากไข่ ในตอนแรกมันอันตรายสำหรับพวกเขาที่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหลัก แม้ว่าพวกมันจะมีเปลือกหอย แต่ก็เป็นเหยื่อของปลาได้ง่าย และคุณสามารถบดขยี้พวกมันได้โดยเริ่มทำความสะอาดตู้ปลา ดังนั้นจึงควรกำหนดคาเวียร์ในภาชนะแยกต่างหากล่วงหน้า เช่น ขวด 3 ลิตร รุ่นที่โตเต็มที่แล้วที่เลี้ยงด้วยไข่แดงต้มและใบผักกาดหอมนึ่ง สามารถกลับคืนสู่พิภพเล็ก ๆ ของโลกในน้ำได้ภายในสองสามสัปดาห์

จีดี สตาร์ เรตติ้ง
กำลังโหลด ...

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหอยทากได้รับการอบรมอย่างไร 5.0 จาก 5 ขึ้นอยู่กับ 1 คะแนน

พวกเขาต้องการเงื่อนไขที่แตกต่างจากปลา นอกจากนี้ทุกคนยังกังวลเกี่ยวกับคำถามเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงหอยทากในตู้ปลา บ่อยครั้งที่แหล่งน้ำเหล่านี้เต็มไปด้วยพืชที่เน่าเปื่อยที่ให้ที่พักพิงและอาหารสำหรับหอยทาก การขาดออกซิเจนในน้ำของแหล่งกักเก็บดังกล่าวไม่สำคัญสำหรับพวกเขา ขดลวดได้รับการปรับให้เข้ากับอากาศในชั้นบรรยากาศมานานแล้ว

Ampullaria ง่ายต่อการเก็บไว้ในตู้ปลาหรือบ่อน้ำ พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับปลาส่วนใหญ่และทำความสะอาดตู้ปลาของสาหร่าย อย่างไรก็ตาม แอมพุลลาเรียบางชนิดไม่เหมาะกับตู้ปลาเพราะ ปลาตัวใหญ่ที่มีความอยากอาหารที่ดีสามารถทำลายพืชผักได้ทั้งหมดโดยเฉพาะในตู้ปลาขนาดเล็ก

คนตะกละเหล่านี้สามารถเปลี่ยนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีให้กลายเป็นทะเลทรายได้ภายในเวลาไม่กี่วัน คงจะดีถ้าทุกคนใช้ชื่อที่ถูกต้องสำหรับหอยทาก แต่ชื่อภาษาอังกฤษที่พบบ่อยที่สุดคือ: หอยลึกลับ หอยทากแอปเปิ้ลสีทอง หอยทากงาช้าง และอื่นๆ ... และส่วนใหญ่จะใช้สำหรับแอมพูลลาเรียประเภทต่างๆ โดยสิ้นเชิง Pomacea bridgesi เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตู้ปลาสำหรับพืช และยิ่งไปกว่านั้น พวกมันสามารถอดตายท่ามกลางต้นไม้ได้ หากคุณให้อาหารพวกมันไม่เพียงพอ

เลี้ยงและเพาะพันธุ์แอมพูลลาเรีย

คุณอาจไม่รู้สึกอะไรจากการกินอาหารดังกล่าว แต่จะทำให้หอยทากเจ็บมาก! นอกจากผักและเม็ดปลาแล้ว หอยทากไม่ดูถูกอาหารปลาแช่แข็งและแม้แต่ปลาที่ตายแล้ว เพียงแค่ดูว่าพวกเขากินมากแค่ไหนในหนึ่งวันจากปริมาณอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรู้เท่าทัน - ฟีดแบบนี้ น้อยกว่าในฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน และอื่นๆ อีกมากในฤดูผสมพันธุ์ความแตกต่างตามฤดูกาลส่วนใหญ่เกิดจากอุณหภูมิ ดังนั้น หากคุณเก็บหอยทากไว้ที่อุณหภูมิคงที่ ความแตกต่างจะน้อยลงแต่จะยังคงอยู่

อย่างไรก็ตาม แม้ในสภาพดี บางคนมีข้อบกพร่องเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนเก่าของเปลือก อย่างไรก็ตาม เป็นความคิดที่ดีที่จะเปลี่ยนน้ำในขวดโหลที่มีแอมพูลลาเรีย (โดยเฉพาะถ้ามีมาก) ในลักษณะเดียวกับที่คุณทำกับตู้ปลาที่มีปลา จากผู้แปล: หากคุณเก็บแอมพูลลาเรียไว้กับปลา ตัวอย่างเช่น ฉันไม่ได้สังเกตความขุ่นของน้ำ หลังจากที่นกหางยาวกัดหนวดที่สวยงามของเขาแล้ว หอยทากก็ต้องปลูก

หากในน้ำมีออกซิเจนเพียงพอ ส่วนใหญ่จะหายใจด้วยเหงือก ปริมาณน้ำสำหรับแอมพูลลาเรียหนึ่งอันขึ้นอยู่กับขนาดของหอยทาก อุณหภูมิ และการกรอง ระดับน้ำไม่ควรสูงเกินไป (2 เท่าหรือมากกว่าความสูงของอ่างล้างจาน)

มันสำคัญมากที่จะต้องมีพื้นที่ว่างในน้ำเพียงพอ (อย่างน้อยขนาดของเปลือก) เพื่อให้หอยทากสามารถออกจากน้ำเพื่อวางไข่ได้ อนิจจาสิ่งนี้มักจะถูกลืม เนื่องจากแอมพูลลาเรียชอบซ่อนตัวในที่ร่มในช่วงกลางวัน จึงแนะนำให้จัดตู้ปลาด้วยหิน ไม้ระแนง และต้นไม้บางชนิด

Ampullaria ไม่ต้องการแสงเพิ่มเติม แต่คุณสามารถติดตั้งไฟตู้ปลาเพื่อสังเกตได้ อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมคือ 18 ถึง 28 ° C เช่นเดียวกับสัตว์เลือดเย็นหลายชนิด แอมพูลลาเรียจะกระฉับกระเฉงกว่าที่อุณหภูมิสูง กินเร็วขึ้น คลานและเติบโต

ที่อุณหภูมิ 18 ° C แอมพูลลาเรียจะแข็งตัว จำศีล หรือเซื่องซึมมาก หอยทากเหล่านี้วางไข่เหนือน้ำ ต้องการพื้นที่ (ความสูง) ที่เพียงพอเหนือผิวน้ำ (> 15 ซม.)

แม้ว่าคุณจะซื้อหอยทากเพียงตัวเดียว แต่ก็มีโอกาสที่จะออกลูกได้ แต่แอมพูลลาเรียเพศเมียสามารถออกไข่โดยไม่มีตัวผู้ได้เลย แม้ว่าจะไม่มีอะไรออกมาจากไข่ก็ตาม และสิ่งสุดท้าย: ไม่ใช่แอมพูลลาเรียทั้งหมดที่ทำอิฐเหนือน้ำ บางคนทำในน้ำ กฎนั้นง่าย - ควรวางไข่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

การสืบพันธุ์ของแอมพูลเลีย

หลังจากช่วงเวลาดังกล่าวผู้หญิงจะมีกำลังเพิ่มขึ้นในบางครั้ง ความหลากหลายของแอมพูลลาเรีย อุณหภูมิ และปริมาณของอาหารเป็นปัจจัยกำหนดภาวะเจริญพันธุ์หลัก ขนาดของไข่แต่ละฟองอยู่ระหว่าง 2.2 ถึง 3.5 มม. (ในกรณีของ Pomacea canaliculata) เพียงหล่อเลี้ยงอิฐ รอสองสามชั่วโมง แล้วเอาออกอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ไข่ชุ่มชื้นแต่ไม่เปียก อย่าพยายามวางไว้ใต้น้ำ คุณจะจมหอยทากหนุ่ม!

หมายเหตุ !: ไม่ใช่หอยทากในสกุล Pomacea ทั้งหมดที่อยู่เหนือน้ำ Pomacea urceus วางไข่ส้ม 50 ถึง 200 ฟองไว้ในเปลือกใกล้กับทางออก ไข่เติบโตในห้องฟักไข่ ในขณะที่แม่ปิดเปลือกด้วยฝาปิดและจำศีล ฝังตัวเองในตะกอนในช่วงฤดูแล้ง ลูกหอยทากจะฟักออกมาและอาศัยอยู่ใต้เปลือกของแม่จนกระทั่งถึงฤดูฝน ผลข้างเคียงของวิธีการฟักไข่นี้คือแผลเป็นที่ด้านซ้ายของกระดองของแม่ที่ติดอิฐ

อย่างไรก็ตาม ในชั่วโมงแรก ๆ พวกมันดูดซับน้ำได้มากและบวมขึ้นมาก หลังจาก 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และอุณหภูมิ 14 วันที่ 25 ° C สำหรับ Pomacea canaliculata) หอยทากตัวแรกจะปรากฏขึ้น หอยทากอายุน้อยจำนวนมากตายในสัปดาห์แรกของการดำรงอยู่ แต่หอยที่รอดชีวิตเติบโตอย่างรวดเร็ว วิธีที่ดีที่สุดในการขนส่งแอมพูลลาเรียคือใส่ไว้ในกล่องพลาสติกที่มีใยสังเคราะห์หรือกระดาษเช็ดมือที่เปียกชื้น

ทั้งหมดนี้นำไปสู่ความจริงที่ว่าชื่อสามัญ Pomus ถือว่าไม่ถูกต้อง ในปี ค.ศ. 1798 Roding ได้เสนอชื่อสามัญว่า Pila (ร่วมกับ Helix ampullacea มันถูกอธิบายว่าเป็นสายพันธุ์โดย Dall (1904))

ชื่อสามัญ Ampullarius เป็นคำพ้องความหมายเชิงอัตวิสัยของ Pomacea (Perry, 1810) (อนุมัติโดย ICZN, OPINION 13) น่าเสียดายที่ Ampullarius ยังคงถูกใช้ในทางที่ผิดในการค้าขาย ในปี พ.ศ. 2367 เกรย์เสนอชื่อวงศ์ Ampullariidae (จากสกุล Ampullaria (Lamarck, 1799)) รวมทั้งแอมพูลลาเรียของโลกเก่าและโลกใหม่ด้วย ไม่มีอะไรซับซ้อนในกระบวนการให้อาหาร หอยทากกินหญ้า สามารถปลูกพืชหลายชนิดในตู้ปลาและเพิ่มเมื่อหายไป

มีสปีชีส์ดังกล่าว - ampullia ดังนั้นจึงควรให้อาหารพวกมันเสมอ จริงอยู่พวกเขาไม่สามารถเอามันออกจากปลาได้ หากเนื้อบดจนเป็นผงแล้วอาหารนี้จะถูกกิน คุณยังสามารถให้สลัดสับละเอียดนอกจากนี้หอยทากสามารถกินเศษขนมปังได้ แต่ไม่ควรให้พวกมันขัดกับความคิดเห็นทั่วไป

หอยทากในตู้ปลาเป็นผู้ช่วยที่ดี และเวลาจะบอกได้ว่าพวกมันมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน พวกเขาไม่ร้องเพลงเหมือนเกี๊ยวอูราลและการทอผ้า หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป - หนึ่งสัปดาห์ครึ่งคาเวียร์สุกและหอยทากตัวเล็กตกลงไปในน้ำ บางคนกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการกำจัดหอยทากในตู้ปลาหรือวิธีการขยายพันธุ์ หากจำเป็น และหอยทากทำอย่างไรในตู้ปลา

เพาะพันธุ์หอยทาก เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ค่อนข้างดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ ขาดข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของพวกเขามาพร้อมกับสิ่งนี้ วิธีเปลี่ยนหอยทากธรรมดาให้เป็นเงินจริงสามารถพบได้ในบทความนี้

คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของหอยทากยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่มีรายการข้อดีหลายประการอยู่แล้ว:

1. วิตามินของร่างกาย. วิตามิน A, B, PP, E, K - นี่คือสิ่งที่หอยทากเต็มไปด้วย
2. มีประโยชน์สำหรับสตรีมีครรภ์ ช่วยฟื้นฟูการเผาผลาญแคลเซียมได้ดี
3. ใช้ในเครื่องสำอางค์ ครีมและเซรั่มที่ผลิตจากสารคัดหลั่งจากหอยทากมีประโยชน์อย่างมากต่อผิว เนื่องจากเข้ากันได้ดีกับโครงสร้างของผิว
4. สัตว์เลี้ยง คุณสามารถใช้หอยทากเป็นสัตว์เลี้ยงได้
5. การรักษา. เมือกหอยทากมีประสิทธิภาพมากสำหรับการอักเสบ แผลไฟไหม้ หูด
6. เครื่องสำอาง เมือกหอยทากสามารถทำให้ผิวเรียบเนียน รักษา microcracks และเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
7. อาหาร. สามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับการลดน้ำหนักเนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอลในเนื้อสัตว์และมีกรดอะมิโนในปริมาณมาก
8. ยาโป๊ ผู้ชายที่กินหอยทากจะสังเกตเห็นความแรงที่เพิ่มขึ้น

การเลือกชนิดของหอยทากที่จะเติบโต

การเลือกหอยทากขึ้นอยู่กับว่าบุคคลสามารถเก็บไว้ที่ไหน

แต่ละสปีชีส์ต้องการสภาพความเป็นอยู่บางอย่าง:

1. อชาติน่า. พวกมันโตในตู้ปลาแก้วซึ่งต้องทำหลายรูเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ ควรมีฝาปิดด้วย
2. หอยทากองุ่น. ต้องปลูกในสวนหรือสวนขวด พวกเขาต้องการพื้นที่ในอัตรา 30 ตารางเซนติเมตรต่อคน
3. หอยทาก Ampularia พวกเขาสามารถเก็บไว้ในตู้ปลาที่มีปลาได้แน่นอนถ้าปลาไม่กินหอย มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ในตู้ปลานอกจากน้ำแล้วยังมีพื้นที่อากาศหลายเซนติเมตร หอยทากขนาดกลางหนึ่งตัวต้องการน้ำประมาณสิบลิตร

เริ่มต้นธุรกิจ

ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจหอยทาก คุณต้องอดทนและดูแลให้มั่นใจว่าหอยเหล่านี้จะไม่ทำให้คุณรังเกียจ

จะเริ่มที่ไหน:

1. เลือกชนิดของหอยทากที่จะผสมพันธุ์
2. จัดสภาพความเป็นอยู่สำหรับเธอ
3. ซื้อพ่อแม่พันธุ์. ประมาณห้าสิบหอยทาก
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีที่ที่จะจัดหาหอยทาก อาจเป็นร้านอาหารหรือร้านขายยาหรือธุรกิจเครื่องสำอาง
5. เรียนรู้ที่จะดูแลพวกเขา
6. เพื่อให้มีตลาดการขาย แนะนำให้จดทะเบียนธุรกิจของคุณ

การลงทะเบียน

ธุรกิจใด ๆ ต้องมีการลงทะเบียน

เพื่อที่จะผ่านคุณต้อง:

1. ผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการรายบุคคลหรือนิติบุคคล สิ่งนี้ต้องการ:
   • หนังสือเดินทางหรือหลักฐานแสดงตัวอื่น ๆ
   • สำเนารหัสประจำตัว;
   • ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมของรัฐ
   • ใบสมัครสำหรับการสร้างผู้ประกอบการรายบุคคล
   • ใบรับรองการใช้ระบบภาษีอากรแบบง่าย
2. ขออนุญาตเพาะพันธุ์และจำหน่ายหอยทากจากสถานพยาบาล บริการจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการเพาะพันธุ์และการขายหอยในภายหลัง

อาคารสถานที่

ขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกและขยายพันธุ์หอยทากสถานที่แบ่งออกเป็น:

1. พื้นที่เปิดโล่ง ในพื้นที่เปิด หอยทากบางชนิดไม่สามารถอยู่รอดได้ แต่มีเพียงหอยทากองุ่นเท่านั้น Achatina ตายที่อุณหภูมิต่ำและหอยทากองุ่นก็จำศีล ที่กระท่อมฤดูร้อนหรือในสวน คุณต้องทำสวนขวด สำหรับสิ่งนี้ คุณสามารถใช้ตาข่ายละเอียดได้ ข้างในควรเป็น:
   • พืชที่มีความสูง 15-20 ซม. ซึ่งหอยทากที่ปลูกเพื่อการปฏิสนธิในภายหลังมีความเหมาะสมสำหรับจุดประสงค์นี้ โคลเวอร์, พืชตระกูลถั่ว, อาร์ติโช้คเยรูซาเล็ม, หัวบีทอาหารสัตว์และเรพซีด
   • อาหารหอยทากและมะนาว
   • ความชื้นคงที่
   • หลังคาจากดวงอาทิตย์เพราะ หอยจะไม่รอดจากแสงแดดโดยตรง
2. แม้ว่าหอยทากจะไม่แปลก แต่คุณต้องสร้างเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับการดำรงอยู่ของพวกมันในที่ร่ม:
   • การระบายอากาศที่ดี
   • ความชื้นไม่น้อยกว่า 90%;
   • สำหรับหอยทากองุ่น อุณหภูมิอากาศที่เหมาะสมคือ 22-24 องศา
   • สำหรับ Akhatin 25-30 องศา
   • ต้องรักษาเสถียรภาพของอุณหภูมิและความชื้นอยู่เสมอการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันอาจเป็นอันตรายต่อหอยทากทุกประเภท
3. การเจือจางแบบผสม ในประเภทนี้การผสมพันธุ์การวางไข่และการเลี้ยงสัตว์เล็กจะดำเนินการในห้องปิดและการดำรงอยู่ต่อไปจะเกิดขึ้นในพื้นที่เปิดโล่ง

อุปกรณ์

1. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีฝาปิด ต้องทำหลายรูเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์เข้า ขนาดควรเป็นพื้นที่ว่างสำหรับแต่ละคนประมาณ 30 ซม.
2. ขี้เลื่อยไม้และดิน พวกเขาควรจะปราศจากเศษซาก ส่วนผสมนี้เป็นแนวด้านล่างของตู้ปลา
3. ภาชนะใส่อาหารและน้ำ. ต้องไม่มีขอบแหลมคมเพื่อไม่ให้หอยทากได้รับบาดเจ็บ
4. หินหรือพลาสติก ที่พักพิงทำจากวัสดุเหล่านี้ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อที่พักพิงสำเร็จรูปได้ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง
5. กิ่งก้านหนาของต้นไม้ เหมาะสำหรับตกแต่งตู้ปลาของคุณ
6. น้ำ. สำหรับหอยทากว่ายน้ำ
7. สเปรย์. เพื่อรักษาความชื้น

หอยทาก หอยทาก Achatina ตัวเต็มวัย

หอยนี้ประกอบด้วยร่างกายที่อ่อนนุ่มและเปลือกซึ่งเป็น "บ้าน" และการป้องกันที่เชื่อถือได้ มันมีหนวดสองคู่ ดวงตาตั้งอยู่ที่หนวดด้านบนและอวัยวะของกลิ่นและรสอยู่ที่ส่วนล่าง อ่างล้างหน้าสูงประมาณ 45 มม. และกว้าง 47 มม.

พวกมันมีรูปร่างเกือบมน หอยทากเคลื่อนที่ด้วยความช่วยเหลือของขา เลื่อนไปตามพื้นผิวเนื่องจากการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ส่งผ่านคลื่นไปตามเท้า ในเวลาเดียวกันมีการปล่อยเมือกจำนวนมากซึ่งช่วยในการเคลื่อนที่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ หอยทากองุ่นพบมากในยุโรปกลางและใต้ เอเชียไมเนอร์ และแอฟริกาเหนือ

พวกมันมีอุณหภูมิร้อนและสามารถพบได้ในป่าเบญจพรรณพุ่มไม้ใกล้นิคม อายุขัยมีตั้งแต่ 6 ถึง 8 ปี แต่สามารถอยู่ได้ถึง 12 ปี

หอยทาก Achatina มีขนาดมหึมา เปลือกของมันสามารถเข้าถึงได้ถึง 19 เซนติเมตรและหนักถึง 400 กรัม บ้านเกิดของพวกเขาคือแอฟริกา ในยุโรปพวกเขาสามารถอยู่รอดได้ที่บ้านเท่านั้นและอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ทั้งหมด

หอยทากทั้งหมดเป็นชาวกลางคืน

ให้อาหาร ไม่ควรให้เนื้อหอยทากเพราะเป็นอาหารหนัก

ขอแนะนำให้ให้อาหารหอยทากในตอนเย็นหรือตอนกลางคืนในช่วงเวลาตื่น

อาหารของเธออาจรวมถึงอาหารต่อไปนี้:

1. ผัก:
   • แตงกวาและมะเขือเทศ
   • พริกหยวก;
   • ฟักทองและบวบ;
   • กะหล่ำดอกและกะหล่ำปลีจีน
   • ใบผักกาดหอม;
   • ผักชีฝรั่งและผักชีฝรั่ง
2. พืชตระกูลถั่ว:
   • ถั่ว;
   • เมล็ดถั่ว;
   • ถั่ว;
3. ผลไม้:
   • แตงโมและแตงโม
   • เชอร์รี่และเชอร์รี่หวาน
   • ลูกแพร์และแอปเปิ้ล
   • ลูกแพร์และแอปเปิ้ล
   • ลูกพีชและน้ำหวาน;
   • สัปปะรด;
   • ลูกพลัม;
   • กีวี่;

นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นพฤติกรรมนักล่าในหอยทากซึ่งอาจส่งผลต่อหอยทากที่มีขนาดเล็กกว่า

เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเปลือกนั้นจำเป็นต้องทำให้ร่างกายของหอยทากอิ่มตัวด้วยแคลเซียม เมื่อต้องการทำเช่นนี้ พวกเขาสามารถป้อนด้วยชอล์กธรรมชาติ (ไม่ใช่จากร้านเครื่องเขียน) เปลือกไข่มีแคลเซียมมาก ต้องล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง และบดเป็นผง ซึ่งต้องเทลงดิน

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหอยทากคือน้ำ เธออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ เธอต้องการมันไม่เพียงแต่สำหรับดื่มแต่สำหรับอาบน้ำด้วย

ไม่ควรให้หอยทากผัดเผ็ดหวานและเค็มไม่ว่าในกรณีใด ๆ เกลือคือความตายสำหรับพวกเขา

อ่านเกี่ยวกับธุรกิจการเพาะพันธุ์และการขายกั้ง

ขายสินค้า

การขายหอยทากอาจเป็นส่วนที่ยากที่สุดในธุรกิจนี้

ก่อนอื่น คุณต้องหาให้ได้ว่าใครต้องการพวกเขา เพราะอะไร และใครยินดีจ่ายให้พวกเขา:

1. ร้านกาแฟและร้านอาหาร หอยทากเป็นอาหารอันโอชะที่ดีต่อสุขภาพและได้รับการชื่นชมจากนักชิมในด้านรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถจัดการกับการจัดส่งในเมืองหรือต่างประเทศของคุณ ผู้บริโภคหลักของเนื้อหอยทากเป็นชาวฝรั่งเศส คุณสามารถติดต่อร้านอาหารและร้านกาแฟผ่านคำติชมผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ พวกเขาส่วนใหญ่ซื้อผลิตภัณฑ์แช่แข็ง ดังนั้นคุณจึงสามารถแยกแยะตัวเองด้วยการจัดหาหอยทากสด คาเวียร์หอยทากก็มีมูลค่าสูงเช่นกัน โดยมีราคาแพงกว่าคาเวียร์สีแดงและสีดำมาก และเรียกว่าคาเวียร์สีขาว
2. ขายส่ง. อาจมีใครบางคนได้สร้างตลาดการขายขึ้นแล้ว ดังนั้นคุณจึงสามารถขายให้กับคนเหล่านี้ในปริมาณมากได้
3. ขายให้กับผู้ผลิตยาและยาโป๊ เมือกหอยทากมีคุณสมบัติเป็นยา ยาเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเพิ่มยาสำหรับรักษาระบบทางเดินหายใจ
4. ขายเพื่อขยายพันธุ์ ฝูงพ่อแม่พันธุ์สามารถขายให้กับผู้ที่ต้องการเริ่มเพาะพันธุ์หอยทากได้เช่นกัน

เทคโนโลยีการผสมพันธุ์

ในการเพาะพันธุ์หอยทาก สิ่งแรกคือจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการสืบพันธุ์:

• อุณหภูมิ 15-24 องศา;
• ความชื้น 80-85%;
• ขาดลม

เพื่อการผสมพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จคุณต้อง:

1. เก็บพ่อแม่พันธุ์. คุณต้องเลือกหอยทากที่ใหญ่ที่สุด ประมาณ 50 ชิ้นก็พอ
2. แบบปากกาสำหรับวางไข่ สิ่งนี้ควรเกิดขึ้นในบ้านเนื่องจากไข่หอยทากชอบกินแมลงหลายชนิด ความลึกของอิฐประมาณ 4 เซนติเมตรซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาเมื่อสร้างด้านล่าง
3. ปากกาสำหรับเก็บหอยทากองุ่น
4. ให้อาหารหอยทากและปากกาเปียก
5. การรวบรวมและแจกจ่าย

หอยทากองุ่นและ Achatina เป็นกระเทย (มีองคชาต 2 ข้าง) ดังนั้นควรปลูกหอยทากที่โตแล้วสองตัว (อายุ 2-3 ปี) ร่วมกันเพื่อผสมพันธุ์ การสืบพันธุ์เกิดขึ้นหลังจากการจำศีลนั่นคือในฤดูใบไม้ผลิ การผสมพันธุ์ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง

สำหรับการวางไข่จะใช้การเยื้องในดินแล้วฝังอย่างระมัดระวัง หอยทากองุ่นวางไข่เฉลี่ย 40-60 ฟอง Achatina - 100-300 หากการผสมพันธุ์เกิดขึ้นในที่โล่ง การวางไข่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในรูของพืช ขั้นตอนการวางไข่ทั้งหมดใช้เวลานานมากและสามารถอยู่ได้นานถึง 20 ชั่วโมง

หอยทากประมาณ 30% ตายหลังจากวางไข่ ประมาณหนึ่งเดือนต่อมา หอยทากขนาดเล็กจะเกิดจากไข่ซึ่งต้องย้ายจากผู้ใหญ่ ด้วยการให้อาหารที่เหมาะสมและสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม หอยทากเล็กสามารถออกลูกได้ภายในหนึ่งปี

การคำนวณต้นทุนและผลกำไร

ต้นทุนและผลกำไรของทุกคนที่เลี้ยงหอยทากนั้นแตกต่างกัน

ขึ้นอยู่กับปัจจัยบางประการ:

1. ซื้อพ่อแม่พันธุ์หรือเลี้ยงเอง
2. ปั้นปากกาด้วยมือของคุณเองหรือซื้อปากกาสำเร็จรูป
3. การใช้อุปกรณ์พิเศษ (เพื่อรักษาอุณหภูมิ ความชื้น และแสง)

พ่อแม่พันธุ์สามารถปลูกได้อย่างอิสระ (ใช้ได้กับหอยทากองุ่น) ขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ที่ไหน พบได้ในออสเตรเลีย รัสเซียตอนใต้ และประเทศเขตอบอุ่น คุณสามารถซื้อสำเร็จรูปราคาประมาณ $ 200 สำหรับ 50 ชิ้น ในการสร้างฟาร์มหอยทากที่สมบูรณ์ คุณต้องมีหอยทาก 750 ตัว ซึ่งราคาจะเท่ากับ 3,000 ดอลลาร์

สำหรับการบำรุงรักษาหอยทากหนึ่งตัว คุณต้องใช้ประมาณ 2 รูเบิลต่อเดือน นั่นคือสำหรับ 750 คุณต้อง 1,500 รูเบิล ในการซื้ออุปกรณ์ (ปากกา คูน้ำ กล่อง) คุณต้องใช้เงินประมาณ $500

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเพื่อเริ่มต้นธุรกิจที่เต็มเปี่ยม จำเป็นต้องมี $ 3,500 สำหรับหอยทากและ 1,500 rubles ต่อเดือนสำหรับการบำรุงรักษา การขายหอยทากหนึ่งตันจะมีมูลค่าประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแปดเดือนจะชำระ 150%

หากพ่อแม่พันธุ์แม่พันธุ์สร้างเอง คุณสามารถประหยัดได้ประมาณ 3,000 ดอลลาร์

หากปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทั้งหมด ธุรกิจหอยทากสามารถทำกำไรได้ค่อนข้างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจ

ธุรกิจของพวกเขา

ใช้ความพยายามน้อยที่สุดและเพิ่มผลกำไรสูงสุด

การประเมินข้อดีข้อเสีย

จากทั้งหมดที่กล่าวมา คุณสามารถประเมินข้อดีและข้อเสียของธุรกิจนี้ได้อย่างง่ายดาย

ข้อดี:

1. คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น
2. ค่าใช้จ่ายรายเดือนขั้นต่ำ
3. ง่ายต่อการผสมพันธุ์
4. ไม่จำเป็นต้องมีอาหารพิเศษ
5. สามารถเพาะพันธุ์ในบ้านในชนบทของคุณ
6. ประโยชน์ของหอยทาก
7. ความสามารถในการรวมธุรกิจกับงานหลักของคุณ

ข้อเสีย:

1. ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการหาตลาดการขาย
2. 30% ของหอยทากตายหลังจากวางไข่
3. อาจขาดพื้นที่เพาะพันธุ์
4. ลื่นและน่ารังเกียจ คุณต้องรักพวกเขามากหรือทำความคุ้นเคยกับพวกเขา

ธุรกิจหอยทากยังไม่ธรรมดา ดังนั้นใครก็ตามที่ตัดสินใจทำก็สามารถประสบความสำเร็จและสร้างอาชีพได้ด้วยความช่วยเหลือจากหอยทาก มีความจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียเพื่อไม่ให้เสียใจในภายหลังเพราะเป็นธุรกิจเฉพาะ